อุโบสถและพระประธานภายในอุโบสถ

อุโบสถและพระประธานภายในอุโบสถ
อุโบสถและพระประธานภายในอุโบสถ

วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2555

พระครูโสภิตมงคลการ (หลวงพ่อขันธ์ สิริวณฺโณ) เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน

ประวัติพระครูโสภิตมงคลการ
(หลวงพ่อขันธ์ สิริวณฺโณ)
     พระครูโสภิตมงคลการ  (หลวงพ่อขันธ์  สิริวณฺโณ)  อายุ  ๙๐  พรรษา  ๗๐  เดิมชื่อ  ขันธ์  นามสกุล  คงสาคร  เกิดเมื่อวันศุกร์  ขึ้น    ค่ำ  เดือน    ปี  กุน  ตรงกับวันที่  ๒๐  กรกฎาคม  ..  ๒๔๖๖  บิดาชื่อ  นายกลับ  มารดาชื่อ  นางหนู  คงสาคร  ณ บ้านหมู่ที่    ต.คลองประเวศ  อ.บ้านโพธิ์  จ.ฉะเชิงเทรา
     อุปสมบทเมื่อ  วันพฤหัสบดีที่  ๒๒  เดือน  เมษายน  .. ๒๔๘๖  ตรงกับวันขึ้น    ค่ำ  เดือน    ปีมะแม    วัดโพธาราม  ต.บางพระ  อ.เมือง  จ.ฉะเชิงเทรา
     โดยมี   พระครูวิจารณ์ธัมมานุวัตร์  วัดโพธาราม  ต.บางพระ  อ.เมือง  จ.ฉะเชิงเทรา  เป็นพระอุปัชฌาย์                                    
     พระครูบู่  วัดประเวศวัฒนาราม  ต.คลองประเวศ  อ.บ้านโพธิ์  จ.ฉะเชิงเทรา  เป็นพระกรรมวาจาจารย์ 
     พระอาจารย์แม้น  วัดโพธาราม  ต.บางพระ  อ.เมือง  จ.ฉะเชิงเทรา  เป็นพระอนุสาวนาจารย์
วิทยฐานะ
     .. ๒๔๘๑ สำเร็จการศึกษาชั้นประถมปีที่  โรงเรียนวัดมงคลโสภิต ต.บางกรูด อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา
     .. ๒๕๘๙ สอบได้ .. เอก สำนักเรียนวัดมงคลโสภิต ต.บางกรูด อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา
งานปกครอง
     .. ๒๕๑๑ เป็น เจ้าอาวาสวัดมงคลโสภิต
    .. ๒๕๓๔ เป็น รักษาการเจ้าคณะตำบลเทพราช
   .. ๒๕๓๕ เป็น เจ้าคณะตำบลเทพราช
   .. ๒๕๓๖ เป็น พระอุปัชฌาย์
   .. ๒๕๔๖ เป็น ที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลเทพราช
งานศึกษา
   .. ๒๔๘๘ เป็น ครูสอนพระปริยัติธรรมวัดมงคลโสภิต
   .. ๒๔๙๔ เป็น กรรมการตรวจธรรมสนามหลวง
   .. ๒๕๑๑ เป็น เจ้าสำนักเรียนพระปริยัติธรรมวัดมงคลโสภิต
งานเผยแผ่
  .. ๒๕๑๓ เป็น พระธรรมทูต สายที่ 
  .. ๒๕๓๕ เป็น ประธานกรรมการ หน่วย ... ประจำตำบลเทพราช
สมณศักดิ์
  .. ๒๕๑๗ เป็น พระครูชั้นประทวน
  พ.ศ. ๒๕๒๐ เป็น พระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นตรี ในราชทินนามที่
                              พระครูโสภิตมงคลการ
  .. ๒๕๒๘ เป็น พระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นโท ในราชทินนามเดิม
  .. ๒๕๔๔ เป็น พระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบล ชั้นโท ในราชทินนามเดิม
  .. ๒๕๕๒ เป็น พระครูสัญญาบัตรที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบล ชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ
                              ในราชทินนามเดิม

พระครูโสภิตธรรมคุณ (หลวงพ่อเชิด โสภิตโต) อดีตเจ้าอาวาสวัดมงคลโสภิต

ประวัติพระครูโสภิตธรรมคุณ
(หลวงพ่อเชิด โสภิโต)
            พระครูโศภิตธรรมคุณ  เดิมชื่อเชิด  นามสกุล  เสมอตน  เกิดวันเสาร์  เดือน    ปี  มะโรง  .. ๒๔๓๔  เป็นบุตร  นายเปลี่ยน  นางพริ้ง  เสมอตน  อยู่บ้านเลขที่  ๓๑  หมู่ที่    ตำบลบางกรูด  อำเภอบ้านโพธิ์  จังหวัดฉะเชิงเทรา  มีอาชีพทำนา  หลวงพ่อเป็นบุตรคนโต  มีน้องชาย  หญิง  อีก    คน  รวมเป็น    คน  เรียงตามลำดับดังนี้ 
                        . พระครูโสภิตธรรมคุณ (เชิด เสมอตน)
                        . นายชื้น เสมอตน
                        . นายสด เสมอตน
                        . นายเสริม เสมอตน
                        . นายสี เสมอตน
                        . นางจ้อย หนูอุดม
                        . นางผุด จันทศิริ
            หลวงพ่อได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๗ ปี พ.. ๒๔๕๑ โดยมีหลวงพ่อโฉม เจ้าคณะหมวดประเวศ วัดประเวศวัฒนาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ บรรพชาแล้วได้มาอยู่กับพระอธิการโห้  เจ้าอาวาสวัดสามัคคีรสาราม  ตั้งใจศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมวินัยตลอดมา  วันที่    กรกฎาคม  .. ๒๔๕๕ จึงได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดสามัคคีรสาราม โดยมีหลวงพ่อโฉม เจ้าคณะหมวดประเวศ วัดประเวศวัฒนาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์โฉม วัดกระทุ่ม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการโห้ วัดสามัคคีรสาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า โสภิโต และจำพรรษาอยู่ ณ วัดสามัคคีรสารามตลอดมา ในปี พ.. ๒๔๖๐ พรรษาที่ ๖ พระอธิการโห้ เจ้าอาวาส มรณะภาพลง ทางคณะสงฆ์ได้มีคำสั่ง ให้พระภิกษุเชิด โสภิโต รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสามัคคีรสารามต่อไป  วันที่  ๑๓  มิถุนายน  .. ๒๔๖๑  จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดสามัคคีรสาราม เมื่อได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสแล้ว ได้จัดการปกครองวัดให้เป็นไปตามสังคหะวัตถุธรรม จัดให้พระภิกษุสามเณรศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมวินัย มีการสวดมนต์ไหว้พระ เช้า - เย็น ทำอุโบสถสังฆกรรมทุกๆ กึ่งเดือน และปรับปรุงรักษาความสะอาดภายในวัด ให้ถูกต้องตามสุขลักษณะ ด้านประชาชนมีการชักชวนให้มาทำบุญในวันพระ ณ ศาลาการเปรียญ มีการสมาทานศีล บริจาคทาน ฟังพระธรรมเทศนา สั่งสอนอบรมให้ละชั่ว ประพฤติดี ให้ตั้งตนเป็นพลเมืองดีของชาติต่อไป พ.. ๒๔๗๐ ได้ตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรมขึ้นภายในวัด และได้ก่อสร้างถาวรวัตถุไว้ในวัดเป็นอันมาก ท่านเป็นนักการก่อสร้าง เพราะแต่ละอย่างที่ท่านก่อสร้าง ไม่เคยไปเอาแบบแปลนมาจากที่ไหน ท่านคิดขึ้นเองทั้งนั้น และก็ได้ทำเองด้วย ในวันที่    มีนาคม  .. ๒๔๘๔  อายุ  ๕๐ ปี ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี มีพระราชทินนามว่า พระครูโสภิตธรรมคุณ และในวันที่ ๑๓ มกราคม พ.. ๒๔๘๖ ท่านก็ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์อีก ด้วยเหตุที่ท่านได้ทำงานก่อสร้างมากเกินไป เพราะท่านทำด้วยตนเองเป็นส่วนใหญ่ เมื่ออายุล่วงเข้า ๗๐ ปี ท่านก็เริ่มป่วยกระเสาะกระแสะเรื่อยมา จนเมื่ออายุ ๗๓ ปี ก็ไม่สามารถจะนั่งอุปัชฌาย์ได้ เดินไปไหนก็ไม่ได้ เพียงแต่เดินอยู่บนกุฏิเท่านั้น จวบจนถึงเดือนกรกฎาคม พ.. ๒๕๑๑ ท่านได้ล้มป่วยมากไม่สามารถจะลุกขึ้นเองได้ แต่สติของท่านยังสมบูรณ์ดีทุกอย่าง ไม่เคยหลงลืม ใครมาเยี่ยมก็ยังจำได้ทุกคน จนถึงวันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.. ๒๕๑๑ ซึ่งเป็นวันที่ท่านได้มรณะภาพลงโดยอาการสงบ แม้แต่ภิกษุผู้พยาบาลกันอยู่ตั้งหลายรูป ก็ไม่รู้ว่าหลวงพ่อได้มรณะภาพลงเสียแล้ว เพราะท่านนอนอยู่เฉยๆ ก็หมดลมไปเอง โดยมิได้สั่งเสียหรือดิ้นรนอะไรเลย จึงนับว่าท่านจากไปโดยอาการสงบอย่างแท้จริง รวมอายุได้ ๗๗ ปี พรรษา ๕๗ ดำรงค์ตำแหน่งเจ้าอาวาส ๕๑ พรรษา และได้พระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.. ๒๕๑๒